เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเราเรียบร้อยแล้วสำหรับ Samsung Galaxy Note 20 | Note 20 Ultra สองเรือธงตัวท็อปรุ่นล่าสุดของทาง Samsung ที่มาพร้อมการปรับโฉมดีไซน์ใหม่หมดจด และอัปเกรดฟีเจอร์ขึ้นจากเดิมในหลายด้าน กับราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท
ในวันนี้ก่อนที่เราจะมีรีวิวฉบับเต็มมาให้ชมกัน ทางทีมงานจะมาสรุป 10 ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจบน Samsung Galaxy Note 20 | Note 20 Ultra ให้ทุกท่านได้ชมกันก่อน เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมพร้อมกันเลยค่ะ
1.ดีไซน์ใหม่หมดจด พร้อมตัวเครื่องสีใหม่
Samsung Galaxy Note 20 Series มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบ ไร้รอยบาก เจาะรูกล้องหน้า โดย Note 20 ใช้หน้าจอแบนขนาดใหญ่ 6.7 นิ้วในชื่อ Super AMOLED Plus Infinity-O Display ส่วนรุ่น Note 20 Ultra มีหน้าจอลงขอบโค้งทั้ง 2 ด้าน (Dual Curved) ในชื่อ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O Display ขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 6.9 นิ้ว และครอบทับหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass Victus รุ่นใหม่ล่าสุด ที่แข็งแรงทนทานมากขึ้น โดยทาง Corining ระบุว่าสามารถทนต่อแรงตกจากความสูงระดับ 2 เมตรได้ และทนทานต่อแรงขีดข่วนกว่ารุ่น Gorilla Glass 6 ถึง 2 เท่า อีกทั้ง Note 20 Ultra ยังมีตัวเครื่องที่เป็นเหลี่ยมมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับตัวเครื่อง Galaxy Note 20 | Note 20 Ultra มีการดีไซน์พื้นผิวแบบด้าน ที่มีความพรีเมียม และช่วยป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี รวมถึงตัวเลือกสีใหม่ในชื่อ Mystic ที่เพิ่มความหรูหราให้ตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้รับการปรับโฉมดีไซน์กล้องหลังแบบใหม่หมดจดอีกด้วย
โดย Samsung Galaxy Note 20 มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว (Triple Camera) ซึ่งประกอบไปด้วย
- กล้องตัวหลักเลนส์ Wide-Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.8 ไมครอน, เทคโนโลยี Dual Aperture, รูรับแสง (Aperture) ขนาด F1.8 และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS
- กล้องตัวที่สองเลนส์ Telephoto ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน, รูรับแสง (Aperture) ขนาด F2.4, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS, รองรับการซูมภาพด้วยเลนส์ได้ 3 เท่า (3x Optical Zoom) และซูมภาพสูงสุด 30 เท่า (30x Hybrid Zoom)
- กล้องตัวที่สามเลนส์ Ultra Wide-Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน, รูรับแสง (Aperture) ขนาด F2.2 และสามารถเก็บภาพมุมกว้างสูงสุดที่ 120 องศา
สำหรับ Samsung Galaxy Note 20 Ultra ก็มีกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) เช่นกัน ซึ่งประกอบด้วย
- กล้องตัวหลักเลนส์ Wide-Angle ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.8 ไมครอน, รูรับแสง (Aperture) ขนาด F1.8 และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS
- กล้องตัวที่สองเลนส์ Periscope Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง (Aperture) ขนาด F3.0, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS, รองรับการซูมภาพด้วยเลนส์ได้ 5 เท่า (5x Optical Zoom) และซูมภาพสูงสุด 50 เท่า (50x Hybrid Zoom)
- กล้องตัวที่สามเลนส์ Ultra Wide-Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง (Aperture) ขนาด F2.2 และสามารถเก็บภาพมุมกว้างสูงสุดที่ 120 องศา
2.จอลื่นกว่าด้วย Refresh Rate 120Hz
Samsung Galaxy Note 20 Ultra มีหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจอย่างหน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X Infinity-O Display ขนาดใหญ่เต็มตา 6.9 นิ้ว และมีค่า Refresh Rate ระดับสูงสุดที่ 120Hz ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานต่างๆ โดยเฉพาะการเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหลกว่าที่เคย พร้อม Adaptive Mode ที่จะช่วยปรับค่า Refresh Rate ให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภทโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น
3.กล้องหลักคมชัด 108MP พร้อมซูมไกลสุด 50 เท่า
Samsung Galaxy Note 20 Ultra ยังโดดเด่นด้านการถ่ายภาพด้วยกล้องตัวหลักคมชัดมาถึง 108 ล้านพิกเซล รองรับระบบการโฟกัสภาพ PDAF และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS จึงสามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว และคมชัด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้อง Ultrawide-Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สำหรับเก็บภาพมุมกว้างสุด 120 องศา และกล้อง Periscope Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่รองรับระบบ OIS พร้อมรองรับการซูมภาพด้วยเลนส์ได้ 5 เท่า (5x Optical Zoom) และซูมภาพสูงสุด 50 เท่า (50x Hybrid Zoom)
4.ถ่ายวิดีโอคมชัดสุดระดับ 8K
กล้องถ่ายภาพของ Samsung Galaxy Note 20 | Note 20 Ultra สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 8K พร้อมโหมดการถ่ายแบบ Pro Video ที่สามารถปรับค่าต่างๆ ได้ครบครัน และครอบคลุมสำหรับช่างภาพแทบทั้งหมด
5.ปากกา Advanced Intelligent S-Pen เวอร์ชันใหม่ เขียนลื่นกว่าเดิม
เมื่อพูดถึงสมาร์ทโฟนตระกูล Samsung Galaxy Note Series ก็ต้องนึกถึงปากกา S-Pen ที่มาคู่กัน โดย Galaxy Note 20 | Note 20 Ultra ก็มากับปากกา Advanced Intelligent S-Pen เวอร์ชันใหม่ที่อัปเกรดจากเดิม พร้อมลูกเล่นที่น่าสนใจมากมาย ที่สำคัญคือมีค่า Input Latency ต่ำ (ค่าความหน่วงในการรับส่งข้อมูลระหว่างปากกา และสมาร์ทโฟน) โดยในรุ่น Note 20 Ultra ตัวปากกา S-Pen จะมีค่า Latency ต่ำสุดที่ 9mm. ขณะที่ปากการุ่น Note 20 มีค่า Latency ต่ำสุดที่ 26mm. จีงสามารถเขียนได้ลื่นไหล และเป็นธรรมชาติมากขึ้น คล้ายกับเขียนด้วยปากกาจริง และที่สำคัญยังเสริมความเก่งของปากกา S-Pen ไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี AI Prediction ที่คอยตรวจจับว่า กำลังใช้ปากกาวาด หรือเขียนไปในทิศทางใด และจะคอยเติมเส้นให้แบบอัตโนมัติหากตรวจพบว่าปากกาไม่ได้สัมผัสหน้าจอโดยตรง
6.Air Gestures แบบใหม่
สำหรับตัวปากกา S-Pen ที่นอกจากมีความแม่นยำมากขึ้นแล้ว Air Gestures หรือฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งการสมาร์ทโฟน Galaxy Note ผ่านการกดค้างที่ปากกา แล้วโบกสะบัดไปในทิศทางต่างๆ ก็ได้รับการอัปเกรด 5 คำสั่งใหม่ด้วยกัน รายละเอียดดังนี้
ย้อนกลับ ⤥
กลับไปหน้าโฮม ↷
เปิด Recent App ⤦
เปิดใช้งานฟีเจอร์ Smart Select ⮍
แคปภาพหน้าจอ ⥻ (ตวัดปากกาแบบหวัดๆ)
7.จัดลายมือเบี้ยวให้ตรงด้วยฟีเจอร์ Auto Straighten
ปากกา S-Pen มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Auto Straighten สำหรับปรับตัวอักษรที่เราเขียนให้กลับมาตรงเป็นแถวเดียวกันในพริบตาเดียว เพื่อช่วยให้อ่านได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทั้งนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานเลยทีเดียว
8.สร้างไฟล์ PDF / PowerPoint ได้ใน Note
การจดบันทึกข้อมูลต่างๆ ลงใน Note บน Samsung Galaxy Note 20 Series สามารถบันทึกได้ในหลายรูปแบบไฟล์ ทั้ง PDF และ PowerPoint เรียกได้ว่าเราสามารถสร้าง Presentation ได้อย่างสะดวก และรวดเร็วผ่านสมาร์ทโฟนของเราเอง
9.อัดเสียง และจดโน้ตได้พร้อมกัน
แอปพลิเคชัน Note ได้อัปเกรดเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การทำงาน และการเรียนเป็นไปได้ง่ายขึ้น ที่สามารถบันทึกเสียง พร้อมกับจดโน้ตได้ โดยโน้ตที่เราจดไว้จะซิงค์กับไฟล์เสียงที่เรากำลังบันทึกอยู่ ซึ่งเมื่อเรากลับมาเล่นไฟล์เสียงที่เราบันทึกไว้ โน้ตที่เราจดก็จะค่อยๆ ปรากฏตามเวลาที่เราบันทึกเสียง ซึ่งถือว่าตอบโจทย์เหล่านักศึกษา รวมถึงผู้ที่ต้องเข้าประชุมบ่อยๆ ได้เป็นอย่างดี
10.อัดเสียงระยะไกลได้คมชัดแบบไม่พึ่งไมโครโฟน ด้วยหูฟังบลูทูธ
Samsung Galaxy Note 20 Series รองรับการบันทึกเสียงระยะไกลได้คมชัดแบบไม่พึ่งไมค์ ด้วยหูฟังบลูทูธ เพียงเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธเข้ากับเครื่อง ก็สามารถใช้ไมโครโฟนของหูฟังเป็นไมโครโฟนสำหรับการบันทึกเสียงในวิดีโอได้ทันที เรียกได้ว่าสะดวกสบายอยู่ไม่น้อย
กระจกกันรอย และฟิล์มกันรอยรุ่นแนะนำสำหรับ Galaxy Note 20 Series
ด้วยจอแสดงผลตัวท็อปที่ยอดเยี่ยมที่สุดของค่าย ทั้งจอ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว บน Galaxy Note 20 Ultra กับจอ Super AMOLED Plus Infinity-O ขนาด 6.7 นิ้ว บน Galaxy Note 20 หากเกิดความเสียหายขึ้นมาก็คงจะเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นผู้ที่เป็นเจ้าของก็ย่อมจะที่ต้องหากระจกกันรอยดีๆ มาช่วยปกป้อง เพราะแม้หน้าจอของ Note 20 Series จะมีฟิล์มกันรอยมาตรฐานติดตั้งมาให้ในเบื้องต้นแล้ว แต่ก็เป็นเพียงฟิล์มบางๆ สำหรับป้องกันริ้วรอยทั่วไปเท่านั้น
ซึ่งหนึ่งในกระจกกันรอยรุ่นพรีเมียมที่เรามาเอาแนะนำกันในวันนี้ก็คือ Hi-Shield UV Glue กระจกกันรอยรุ่นท็อปของแบรนด์ Hi-Shield ที่พัฒนามาเพื่อ Galaxy Note 20 Series โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะติดได้แน่นทั่วแผ่นอย่างแท้จริงตามแบบฉบับของกระจกกาว UV แล้ว ก็ยังมีคุณสมบัติเด่นอีกมากมาย ทั้งยังสามารถสแกนนิ้วด้วยเทคโนโลยี Ultrasonic บนหน้าจอได้ตามปกติ, มีความแข็งแกร่งระดับ 9H, กันน้ำ-กันฝุ่นได้ดี, ผลิตจากกระจกนิรภัย Asahi Glass จากประเทศญี่ปุ่น ที่ใสไร้ขอบทั้งแผ่น, ผิวสัมผัสลื่นทำความสะอาดได้ง่าย, ติดตั้งเองได้ง่ายด้วยกาวที่อบได้เร็วกว่าเดิม แห้งเร็วกว่าเดิม, ยังแสดงผลได้คมชัดสีสันสดใสแทบไม่ต่างไปจากหน้าจอเดิม, ใส่เคสได้ตามปกติ และที่สำคัญคือมีการรับประกันให้นานถึง 365 วัน หรือ 1 ปีเต็มนั่นเอง โดยมีราคาพร้อมเครื่องฉายแสง UV อยู่ที่ 1,590 บาท
นอกจากรุ่น UV Glue แล้ว ทาง Hi-Shield ก็ยังมีผลิตภัณฑ์พรีเมียมสำหรับ Galaxy Note 20 Series อีกหลายรุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกระจกกันรอย Black Mirror Camera Lens ราคา 290 บาท สำหรับช่วยปกป้องเลนส์กล้อง, กระจกกันรอย Black 2.5D Full Coverage ราคา 590 บาท สำหรับจอที่ไม่ใช่ขอบโค้งของรุ่น Note 20 และฟิล์มกันรอย Full Body Back ราคา 490 บาท สำหรับปกป้องด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบใส่เคส ท่านใดสนใจก็สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ ทั้งการสั่งซื้อแบบออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
สรุปราคา Samsung Galaxy Note20 Series
Samsung Galaxy Note20 Series วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ที่ร้าน Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยมีรายละเอียดตัวเลือก และรุ่นความจุดังต่อไปนี้
Samsung Galaxy Note 20 มีตัวเลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Mystic Bronze, Mystic Green และ Mystic Gray
- รุ่น LTE RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 29,900 บาท
- รุ่น 5G RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 33,900 บาท
คุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy Note 20
Samsung Galaxy Note 20 Ultra มีตัวเลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Mystic Bronze และ Mystic Black
- รุ่น LTE RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 38,900 บาท
- รุ่น LTE RAM 8GB + ROM 512GB ราคา 42,900 บาท
- รุ่น 5G RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 42,900 บาท
- รุ่น 5G RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 46,900 บาท
คุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy Note 20 Ultra
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 15/9/2563
เทคโนโลยี - ข้อมูลล่าสุด - Google News
September 15, 2020 at 03:09PM
https://ift.tt/32txzSu
10 สิ่งใหม่ใน Samsung Galaxy Note 20 | Note 20 Ultra สองเรือธงที่ดีที่สุดแห่งปีของค่าย พร้อมปากกา S-Pen โฉมใหม่ และกล้อง 108MP ซูมไกล 50 เท่า - thaimobilecenter
เทคโนโลยี - ข้อมูลล่าสุด - Google News
https://ift.tt/2wMiz5r
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
Bagikan Berita Ini
0 Response to "10 สิ่งใหม่ใน Samsung Galaxy Note 20 | Note 20 Ultra สองเรือธงที่ดีที่สุดแห่งปีของค่าย พร้อมปากกา S-Pen โฉมใหม่ และกล้อง 108MP ซูมไกล 50 เท่า - thaimobilecenter"
Post a Comment