Search

รีวิว iPhone SE 2020 ความคุ้มสุดของ iPhone ด้วยขุมพลัง A13 Bionic พร้อมฟีเจอร์ระดับท็อป ในราคาสุดสบายกระเป๋า - iphone-droid.net

biasa.prelol.com

รีวิว Vivo Y30 สมาร์ตโฟนสเปคสุดคุ้มในราคาเบาๆ จัดเต็มกล้องหลัง 4 เลนส์, หน้าจอ Ultra O Screen พร้อมแบตเตอรี่แบบอึดๆ 5000mAh เรามาดูกันครับมีฟีเจอร์อะไรที่ทำให้รุ่นนี้เกินคุ้มบ้าง

สรุปสเปค Vivo Y30

  • ขนาดตัวเครื่อง : 162.04 × 76.46 × 9.11 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 197 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล Ultra O Screen แบบ LCD กว้าง 6.47 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1560 x 720 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 และพื้นที่การแสดงผลที่ 90.77%
  • หน่วยประมวลผล : Mediatek Helio P35 Octa-core
  • RAM 4 GB
  • ROM 128 GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้
  • ระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 10
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์แบ่งเป็น
    • เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์ Super Wide-Angle 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
    • เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
  • รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz + 5GHz, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

มาพร้อมกับความสวยงามแบบเรียบง่ายสำหรับกล่องของ Vivo Y30 มีสีขาวพร้อมชื่อรุ่น และลวดลายสีขาวตัดฟ้ารูปตัว “Y” โดยอุปกรณ์ต่างๆ ภายในกล่องมีดังนี้

  • ตัวเครื่อง Vivo Y30 พร้อมติดฟิล์มกันรอย
  • อะแดปเตอร์
  • สาย USB Type-C
  • เคสใส
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
  • ใบรับประกันสินค้า

ดีไซน์ของ Vivo Y30 เน้นเรื่องสีสันที่ดูโดดเด่นเป็นพิเศษแบบ Dazzling 3D Colors โดยสีสันที่เราได้มาเป็นสีขาวอมฟ้า Moonstone White คล้ายกับหยกสีขาวที่มีประกายมุกระยิบระยับ เล่นกับลวดลายที่หลังตัวเครื่องที่ดูนุ่มนวลสุดๆ ขณะที่อีกสีจะเป็น Dazzle Blue สีน้ำเงินสุดเงางาม มีความเปล่งประกายออกมาจากโมดูลกล้องที่มุมซ้ายบน

Vivo Y30 ยังออกแบบตัวเครื่องให้โค้งมนแบบ 3 มิติ เพื่อให้การจับถือระหว่างใช้งานต่างๆ เป็นไปได้อย่างสบายมือสุดๆ

ความพิเศษที่โดดเด่นใน Vivo Y30 เป็นหน้าจออแสดงผล Ultra O Screen ชนิด LCD ทำให้มีขนาดอยู่ที่ 6.47 นิ้ว พร้อมความคมชัดระดับ HD+ (1560 x 720 พิกเซล) ซึ่งก็รับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีครับ

ที่สำคัญใครที่ชอบฟังเพลงหรือดูภาพยนตร์ต่างๆ ในสมาร์ตโฟน Vivo Y30 ก็ให้เราใช้งานอย่างเต็มอรรถรสแบบเต็มตาเพราะมีพื้นที่การแสดงผลที่ 90.77% เลยทีเดียว

เหนือหน้าจอแสดงผลของ Vivo Y30 มีกล้องหน้าฝังในหน้าจอที่มุมซ้ายบน และลำโพงสำหรับสนทนาที่ตรงกลาง

ทางซ้ายตัวเครื่องมีเพียงช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง

ส่วนทางขวามีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power

ที่ด้านล่างตัวเครื่องจะมีตั้งแต่ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ถัดไปทางขวาจะมีไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก

สุดท้ายที่ด้านหลังมีโมดูลกล้องหลัง 4 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED ที่อยู่ด้วยกันครับ ขณะที่ตรงกลางเครื่องจะมีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฎิบัติการ

Vivo Y30 แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 10 ซึ่งในระบบรุ่นใหม่นี้ช่วยให้การทำงานทั่วไปของระบบไหลลื่นมากยิ่งขึ้น เพราะมีการจัดการเรื่อง RAM ได้ดีกว่าเดิม

หน้าตา UI : Funtouch OS 10

โหมดถนอมสายตา Eye Protection Screen

สำหรับ Vivo Y30 ที่เน้นเรื่องหน้าจอถนอมสายตาอยู่แล้วก็มาพร้อมโหมดตัดแสงสีฟ้าได้อย่างชาญฉลาดครับ นอกจากจะมีการเปิดสีหน้าจอให้เป็นโทนอุ่นได้แล้ว ก็ยังมีการเปิด/ปิดแบบอัตโนมัติตามพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกตามภูมิภาคของเราด้วย

โหมดมืดใช้งานได้ในที่แสงน้อย

ไม่ใช่แค่โหมดถนอมสายตา แต่โหมดมืดก็มีมาให้เหมือนกัน ซึ่งพื้นหลังของระบบทั้งหมดจะเป็นสีดำ รวมถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่รองรับเช่นกัน

ทั้งนี้ เราสามารถปรับความสว่างของพื้นหลังจากสีดำเป็นสีออกเทาๆ ได้เช่นกันครับ

ระบบความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยก็มีให้ครบเช่นกันครับ ที่แม้ว่าจะไม่ได้สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แต่ก็มีให้สแกนใบด้านหลังเครื่องครับ สะดวกไม่แพ้กัน แถมการใช้งานในการปลดล็อกก็รวดเร็วด้วย

ส่วนการสแกนใบหน้าก็ถือว่ารวดเร็วครับ กดปุ่ม Power เสร็จ ก็รอการสแกนเพียงไม่นาน ก็ใช้งานได้ทันที

เปลี่ยนเอฟเฟ็กต์แบบไดนามิกอย่างสวยงาม

เราสามารถเปลี่ยนเอฟเฟ็กต์แบบไดนามิกได้ 2 แบบใน Vivo Y30 ครับ จะมีทั้งรูปแบบของการเข้าสู่เข้าจอหลักหลังปลดล็อกเครื่อง และรูปแบบภาพเคลื่อนไหวของการสแกนใบหน้า

  

สุขภาวะดิจิทัล (Screen Time) แบบอัจฉริยะจาก Jovi

Jovi หรือผู้ช่วยอัจฉริยะใน Vivo Y30 จะบันทึกเวลาในการใช้งานสมาร์ตโฟนของเรา ไม่ว่าจะเป็นเวลาบนหน้าจอ, จำนวนที่หยิบ, ระยะเวลาการดูโดยเฉลี่ย และใช้งานต่อเนื่องนานเท่าไหร่ เป็นต้น เพื่อให้เราได้ทราบว่าเราใช้งานสมาร์ตโฟนหนักแค่ไหน และเราควรพักผ่อนแล้วหรือไม่

ทั้งนี้เราสามารถตั้งค่าขีดจำกัดเวลาหน้าจอว่ากี่ชั่วโมงและกี่นาที เพื่อไม่ให้เราใช้งานเยอะเกินไปครับ

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

Vivo Y30 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลรุ่นเล็กอย่าง Mediatek Helio P35 Octa-core ที่เน้นเรื่องการประยัดพลังงาน ทั้งยังมี RAM ให้ 4GB พร้อม ROM 128GB ทำให้จะโหลดแอปหรือเกมก็เก็บได้เยอะ ไม่ต้องกลัวเต็ม ที่สำคัญ Vivo Y30 ยังมีเทคโนโลยี Multi-Turbo 3.0 ที่ช่วยให้การเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ เร็วขึ้นด้วย

ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu ทำคะแนนไปได้ที่ 111,074

เล่นเกมไหลลื่นด้วยฟีเจอร์ Ultra Game Mode เวอร์ชัน 8.0

Ultra Game Mode ใน Vivo Y30 มาพร้อมกับเวอร์ชัน 8.0 แล้วครับ เป็นฟีเจอร์ที่เข้ามาช่วยให้การเล่นเกมไหลลื่นกว่าเดิม ซึ่งจะมีฟังก์ชันเสริมเป็นการบันทึกหน้าจอระหว่างเล่นและล็อกความสว่างหน้าจอครับ

ทดสอบการเล่นเกม

ROV

ต้องบอกว่าการปรับกราฟิกเกม ROV ใน Vivo Y30 นั้นทำให้ดีเกินคาดเพราะปรับได้สูงสุดทั้งหมด รวมถึงเฟรมเรทระดับสูงด้วย ซึ่งเราก็ทดสอบเล่นในโหมด 5 VS 5 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากๆ ครับสำหรับสมาร์ตโฟนราคาประหยัด ส่วนเรื่องเฟรมเรทอาจจะดรอปอยู่ครับ แต่ถ้าใครไม่อยากให้เฟรมดรอปก็ให้ลองปรับลดกราฟิกมาอยู่ระดับกลางได้เลยครับ

Call of Duty: Mobile

ส่วนเกม Call of Duty: Mobile สามารถปรับภาพกราฟิกได้ในระดับ Low และเฟรมเรทระดับกลางครับ โดยเราทดสอบในโหมด Battle Royale ถือว่าเล่นได้ดีกว่าที่คิดครับ เรื่องการสัมผัสก็อยู่ในระดับที่ดีพอสมควรเลย

แบตเตอรี่อึด 5000mAh อยู่ได้ตลอดวัน

จัดเต็มให้เราใช้งานได้ยาวๆ สำหรับ Vivo Y30 ที่ให้แบตเตอรี่มาแบบอึดๆ ถึง 5000mAh ต้องบอกว่าใช้งานได้ตลอดทั้งวันแน่นอนครับ ทั้งยังสามารถอยู่ในโหมดสแตนด์บายได้ถึง 29.7 วันอีกด้วย นอกจากนี้ แบตเตอรี่เยอะๆ ก็ยังชาร์จให้กับสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นได้ด้วยการเปลี่ยนตัวเองเป็น Power Bank แล้วทำการ Reverse charging ผ่านสาย OTG (ซื้อแยก) ครับ

กล้องถ่ายรูป

Vivo Y30 ไม่ได้ลดสเปคเรื่องกล้องแม้ว่าจะมาในราคาที่ประหยัดสุดๆ ครับ เพราะให้กล้องหลังมาถึง 4 เลนส์ ครบทุกฟีเจอร์ที่ใช้งานกันบ่อยๆ โดยแต่ละเลนส์ประกอบด้วย ..

  • เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์ Super Wide-Angle 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมใช้งาน AI Beauty ได้ด้วย

เลนส์หลักถ่ายคมชัด 13 ล้านพิกเซล

Vivo Y30 จัดกล้องหลักมาให้ที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้สวยงาม สีสันยังคงสมจริง แถมเรื่องแสงและเงาก็คมชัด ไม่ว่าจะถ่ายบรรยากาศหรือบุคคลครับ

มีเลนส์ Super Wide-Angle กว้างสุดถึง 120 องศา

ใครชอบถ่ายมุมกว้างๆ เห็นได้ครบทุกมุมมองในช็อตเดียวจะต้องมี Vivo Y30 เป็นหนึ่งในตัวเลือกครับ เพราะมีเลนส์ Super Wide-Angle มุมมองกว้างถึง 120 องศา เรื่องสีสันและความคมชัดต่างๆ ก็ไม่ต้องห่วงครับ เพราะเห็นได้ชัดเจน และระบบโฟกัสก็ทำได้ไวด้วย


เลนส์หลัก / เลนส์ Super Wide-Angle


เลนส์หลัก / เลนส์ Super Wide-Angle

ถ่าย Portrait สวยงาม ละลายหลังได้เนียน

จัดเลนส์ Bokeh มาให้ก็สามารถถ่ายภาพบุคคลให้มีมิติได้ดีขึ้นเช่นกันครับ การเบลอฉากหลังจะช่วยบุคคลดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งยังปรับแต่งใบหน้าสวยหรือโครงหน้าต่างๆ ได้ถึง 100 ระดับ


โหมด Portrait / โหมดปกติ

Super Macro ใกล้แค่ไหนก็เห็นได้คมชัด

เลนส์ Super Macro ใน Vivo Y30 มีระยะโฟกัสใกล้ถึง 4 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระยะที่สายตาของเรานั้นแทบไม่โฟกัสแล้วครับ นั่นหมายความว่าเลนส์นี้ช่วยให้เราเห็นในสิ่งที่ตาเรามองไม่เห็น

กล้องหน้าถ่ายสวย บิวตี้ธรรมชาติ

Vivo Y30 ก็จัดกล้องหน้ามีความสวยงามแบบธรรมชาติมาให้ใช้งานครับ ซึ่งจริงๆ ในโหมดเราแทบไม่ต้องไปปรับอะไร AI จะช่วยให้เองอัตโนมัติ

Portrait กล้องหน้าบิวตี้ได้ เบลอหลังแบบมีมิติ

แต่ถ้าใครอยากให้โฟกัสแค่ใบหน้าเราก็ยังมีโหมด Portrait ที่กล้องหน้าเช่นกันครับ ซึ่งก็ยังคงปรับแต่งใบหน้าอยู่นะ

สรุปจุดเด่น

  • หน้าจอแสดงผล Ultra O Screen ช่วยให้จอมีความกว้างอยู่ที่ 6.47 นิ้ว พร้อมกับมีความละเอียด HD+ ทำให้ใช้งานได้ทั้งเต็มตาและคมชัดไปพร้อมกัน
  • กล้องหลังจัดให้ถึง 4 เลนส์ ครบทุกฟีเจอร์ทั้ง Portrait, Ultra-Wide และ Macro ส่วนกล้องหน้าก็ถ่ายสวยงามแบบธรรมชาติ
  • หน่วยประมวลผล Mediatek Helio P35 Octa-core ช่วยให้การใช้งานทั่วไปไหลลื่นพร้อมกับประหยัดพลังงานไปในตัว
  • RAM 4GB คู่กับ ROM 128GB ที่ถือว่าให้มาแบบพอใช้งานแน่นอนสำหรับราคาระดับนี้ครับ โหลดแอปหรือถ่ายรูปได้นาน ไม่ต้องกังวลว่าจะเต็ม
  • แบตเตอรี่ให้มาถึง 5000mAh รองรับการใช้งานได้ตลอดวัน

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • ไม่มีหูฟังภายในกล่อง

สำหรับผู้ที่สนใจ Vivo Y30 จะเปิดวางจำหน่ายในราคา 6,999 บาท

Let's block ads! (Why?)



เทคโนโลยี - ข้อมูลล่าสุด - Google News
June 13, 2020 at 09:01PM
https://ift.tt/37tzS8U

รีวิว iPhone SE 2020 ความคุ้มสุดของ iPhone ด้วยขุมพลัง A13 Bionic พร้อมฟีเจอร์ระดับท็อป ในราคาสุดสบายกระเป๋า - iphone-droid.net
เทคโนโลยี - ข้อมูลล่าสุด - Google News
https://ift.tt/2wMiz5r
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update


Bagikan Berita Ini

0 Response to "รีวิว iPhone SE 2020 ความคุ้มสุดของ iPhone ด้วยขุมพลัง A13 Bionic พร้อมฟีเจอร์ระดับท็อป ในราคาสุดสบายกระเป๋า - iphone-droid.net"

Post a Comment

Powered by Blogger.