Search

“ลาซมอลล์-ช้อปปี้” เคลื่อนทัพ อัปแพลตฟอร์ม-งัดบริการใหม่ - ผู้จัดการออนไลน์

biasa.prelol.com


การตลาด – อี-คอมเมิร์ซไทย พุ่งช่วงโควิด-19 ระบาดหนักครึ่งปีแรก ทั้ง ลาซมอลล์ในเครือลาซาด้ากับช้อปปี้ ยิ้มไม่หุบ เผยตัวเลขโตทั้งยอดขาย ผู้ค้า และสินค้าที่เข้าสู่ระบบใหม่ๆเพียบ เร่งอัพเกรดแพลตฟอร์มพร้อมเปิดบริการใหม่ๆดูดนักช้อป

ตลาดอี-คอมเมิร์ซ (E-COMMERCE)ในไทย มีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีสัดส่วนน้อยมากแค่ 3% จากมูลค่าตลาดรวมค้าปลีกทั้งระบบในไทย ขณะที่จีนที่ว่าเป็นตลาดใหญ่เติบโตดีแล้วก็ยังมีสัดส่วนประมาณ 15% จากตลาดค้าปลีกรวมทั้งระบบเท่านั้นเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ยังเป็นตลาดที่ใหญ่เติบโตได้อีกมาก 

โดยมีค่ายใหญ่ๆที่เล่นในตลาดนี้ คงไม่พ้น ลาซาด้า, ช้อปปี้ กับ เจดีเซ็นทรัล ที่ถือเป็นมาร์เก็ตเพลสรายใหญ่ในตลาดเมืองไทยา ยิ่งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดอย่างหนักในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ส่งผลเชิงบวกต่อตลาดอี-คอมเมิร์ซที่ยิ่งโตสวนทางธุรกิจอื่นอย่างมาก ที่ต้องติดกับอยู่กับมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆ แต่การซื้อขายทางออนไลน์กลายเป็นวิถีชีวิตไลฟ์สไตล์ทางออกหนึ่งในช่วงโควิดได้อย่างดี 

ทั้งนี้ ลาซาดา (LAZADA) แพลตฟอร์มผู้นำในไทย ซึ่งมีอีกกลยุทธ์ที่เรียกว่า ลาซมอลล์ (Laz Mall ) ห้างสรรพสินค้าออนไลน์เสมือนจริง ที่เริ่มมา 2 แล้ว ที่เป็นอีกอาวุธหนึ่งที่มาเสริมลาซาด้าแพลตฟอร์มเดิม กำลังอยู่ในช่วงที่รุกหนักเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีเป้าหมายที่จะให้บริการมากกว่า 300 ล้านคน ภายในปี 2573 

ด้านช้อปปี้ กับการเติบโตและการขยายตลาดที่น่าจับตามอง ด้วยกลยุทธ์ตามแบบฉบับของตัวเอง


*** ลาซมอลล์ รุกหนัก ปรับโฉมใหม่

นายแจ็ค จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้มีแบรนด์สินค้าผู้ค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ของลาซาด้าเพิ่มขึ้นมาก เราต้องพัฒนาวิธีการใหม่ๆเพื่อสร้างคุณค่าทั้งธุรกิจและผู้บริโภค ล่าสุดได้พัฒนาลาซมอลล์ (LazMall)สู่โฉมใหม่เพื่อให้ความสะดวกมากขึ้น มีสินค้าพรีเมียมมากขึ้น 

ทั้งนี้เพียงแค่ 2 ปีของการเข้าตลาดของลาซมอลล์ในไทยเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนปี2561 จนถึงเดือนมิถุนนายนปีนี้ เทียบกันพบว่า ยอดขายสินค้า เพิ่มขึ้น 160%, จำนวนคำส่งซื้อ เพิ่มขึ้น 130%, จำนวนแบรนด์ เพิ่มขึ้น 600% และจำนวนผู้ซื้อในไทย เพิ่มขึ้น 110% โดยมีสินค้ามากกว่า 18,000 แบรนด์ในระดับภูมิภาครวมกัน และมีมากถึง 6,000 แบรนด์จากมากกว่า 2,000 หน้าร้าน ในลาซมอลล์ ในไทย 


นางสาวธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ ลาซาด้า กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ตลาดอี-คอมเมิร์ซเติบโตดีและมีความเคลื่อนไหวอย่างมาก แม้มีกระแสข่าวว่า จะมีรายใหม่จากต่างประเทศจะเข้าสู่ตลาดเมืองไทยอีกก็ตามซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้เกิดการนำเสอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค และธุรกิจนี้ยังคงเป็นพระอาทิตย์ขึ้น

ขณะที่ลาซมอลล์ในไทยถือเป็นตลาดที่เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มภูมิภาคที่ลาซมอลล์ดำเนินธุรกิจอยู่ใน 6 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ ไทย เวียดนาม โดยไทยมีการใช้จ่ายต่อคนสูงอันดับ2รองจากสิงคโปร์ และ มีจำนวนผู้ใช้สูงอันดับที่2 รองจากอินโดนีเซีย 

จากข้อมูลของบริษัทฯ พบว่า ในช่วงโควิด-19 ระบาด จะมีออร์เดอร์หรือการสั่งซื้อสินค้าจากผู้บริโภคเพิ่มมากกว่า 100% โดยกลุ่มลูกค้าอายุ 18-35 ปี เป็นฐานที่ใหญ่ที่สุดมากกว่า 50% รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 36-45 ปี และมีสินค้าใหม่ๆที่เข้าสู่แพลตฟอร์มลาซมอลล์มากถึง 600 กว่าแบรนด์ หรือมากกว่าช่วงปรกติถึง 3 เท่า


นอกจากนั้น สินค้าที่เป็นอาหารสำเร็จรูปเติบโตถึง 3 เท่า สินค้าทำความสะอาดสุขอนามัย เติบโต 7 เท่า สินค้าเกี่ยวกับหม้อทอด เติบโต 3 เท่า สินค้าเกี่ยวกับตกแต่งบ้าน เติบโต 3 เท่า 

ขณะที่แผนกใหม่ที่บริษัทฯเปิดขึ้นมาคือ พรีเมี่ยม บิวตี้ มอลล์ เสมือนเป็นแผนกเครื่องสำอางระดับพรีเมียมในห้างสรรพสินค้า เมื่อปลายปี 2560 เพียงแค่ 5 แบรนด์ แต่ล่างสุดมีเพิ่มเป็น 40 แบรนด์แล้ว และมีจำนวนถึง 80% จากทั้งหมดที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟกับลาซมอลล์ โดยมียอดขายรวมเติบโต 540% จำนวนผู้ขายเติบโต 330%
ส่วนแผนกไทยดีไซน์เนอร์คลับ เปิดปลายปีที่แล้ว เริ่มจาก 5 แบรนด์ ปรากฏว่าช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมามีแบรนด์ใหม่ๆเข้ามามากขึ้น เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายในช่วงที่ร้านออฟไลน์ได้รับผลกระทบแทบจะเปิดไม่ได้ ขณะนี้จึงมีเพิ่มเป็น 50 กว่าแบรนด์แล้ว ซึ่งบางแบรนด์มียอดขายเติบโตในช่องทางเรามากกว่า 200% 

กลยุทธ์ใหม่ที่เราเพิ่งเริ่มทำในช่วงโควิด19อีกคือ Co-Campaign คือการนำสินค้าที่น่าจะมีความเกี่ยวเนื่องสอดคล้องกันมาทำแคมเปญร่วมกันเพื่อช่วยผลักดันยอดขายทั้งคู่ เช่น ไบโอเดิร์มฮอมกับเครื่องโกนหนวดฟิลิปส์ ทำให้ไบโอเดิร์มได้ลูกค้าใหม่เพิ่ม 74% และฟิลิปส์ได้ลูกค้าใหม่เพิ่ม 88% 


นางสาวธนิดา กล่าวว่า ล่าสุดได้ปรับโฉมลาสมอลล์LazMall ใหม่ ที่ไม่เพียงนำเสนอประสบการณ์ระดับพรีเมียมยิ่งขึ้นทั้งสำหรับแบรนด์และนักช้อป แต่ยังเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคด้วยการรับประกันสินค้าแบรนด์ของแท้ นอกจากจำนวนแบรนด์ไทยและต่างประเทศที่มากกว่า 2,000 แบรนด์แล้ว หน้าอินเทอร์เฟซและช่องทางการขาย (touchpoint) ที่ปรับเปลี่ยนขึ้นใหม่จะมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกสนานและเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น

“หากผู้บริโภคพบสินค้าปลอมบน LazMall เรายินดีคืนเงินให้เป็นจำนวน 5 เท่าของราคาสินค้า[1] นอกจากนี้ เรายังรับประกันเวลาในการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วทันใจ ผู้ซื้อสามารถทราบล่วงหน้าถึงวันเวลาที่จะได้รับสินค้าที่สั่งซื้อไว้”

สำหรับแบรนด์ต่างๆ LazMall มีการปรับเปลี่ยนหน้าอินเทอร์เฟซ ที่มีประสิทธิภาพและสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์และสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม ได้แก่ ฟังก์ชันการออกแบบดีไซน์และนำเสนอสินค้า ร้านค้าพิเศษ และหน้าร้านที่สร้างขึ้นมาสำหรับแต่ละแบรนด์โดยเฉพาะ ทั้งยังสามารถเข้าถึงโซลูชันส์การจัดการข้อมูล (data solutions) และโซลูชันส์สำหรับธุรกิจต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ที่ครบวงจร 

ส่วนแบรนด์ชั้นนำบน LazMall ที่ได้ปรับใช้แนวคิดร้านค้าปลีกยุคใหม่ (new retail) ในประเทศไทย อาทิ Samsung, JBL, Huxley, Birkenstock และ LEGO ได้ผสานประสบการณ์ออฟไลน์เข้ากับออนไลน์ โดยให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากแอปพลิเคชันลาซาด้า และรอรับสินค้าได้ที่บ้านอย่างสะดวกสบาย และยังไปลองสินค้าได้ที่หน้าร้านและสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ในภายหลัง

ล่าสุดได้เปิด “Lazada On Ground ป๊อปอัพสโตร์แห่งแรกของลาซาด้าในประเทศไทย ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์จะจัดแสดงสินค้าของแบรนด์ชั้นนำบน LazMall มากกว่า 40 แบรนด์ เราจะนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ด้วยการผสานโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ จะเปิดให้บริการถึงเดือนมกราคม 2564
โดยตลอดทั้งเดือนจนถึงวันที่ 6 กันยายนนี้ จะมีดีลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น คูปองพิเศษ มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท ที่เก็บได้ที่ป๊อปอัพสโตร์ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์แห่งนี้เท่านั้นในทุกๆ วันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เพื่อใช้ในเทศกาลช้อปปิ้ง 9.9 ที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งจะมีการลดสินค้าสูงสุดกว่า 90%


*** ก๊อปปี้ งัดกลยุทธ์ 3 พันธะสัญญา

ช้อปปี้
ทางด้านช้อปปี้ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาในช่วงจากนี้
นางสาวสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรวมอีคอมเมิร์ซในไทยครึ่งปีแรก2563เติบโตดีมาก ตามเทรนด์ของตลาด รวมทั้งโควิด-19ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวเร่งที่ทำให้ตลาดคึกคักด้วย ซึ่งเราพบว่า ลูกค้าของช้อปปี้ใช้ระยะเวลาในการอยู่ในแพลตฟอร์มเราเพิ่มขึ้นกว่า 20% 

ขณะที่ช้อปปี้ก็ได้ฐานลูกค้าใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ชาย และกลุ่มคนต่างจังหวัด จากเดิมที่ฐานตลาดใหญ่สุดของช้อปปี้คือกลุ่มอายุ 18-35 ปี


นอกจากนั้นได้เปิด กลุ่มบริการใหม่ๆ คือ Deals Near Me คือ กลุ่มขายคูปองร้านค้าต่างๆเช่น เคเอฟซี แมคโดนัลด์ และกลุ่มตกแต่งบ้านเฟอร์นิเจอร์ เช่น เอสบี อินเด็กซ์ โมเดิร์นฯฟอร์ม บุญถาวร ที่เข้ามาในระบบช้อปปี้

“ตอนนี้เรามีฐานลูกค้าที่ดาวน์โหลดแพลตฟอร์มเราในไทยประมาณ 30 ล้านดาวน์โหลด ตั้งเป้าหมายว่าในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 70 ล้านดาวน์โหลด และจะขยายฐานตลาดให้มากที่สุด รวมทั้งกลุ่มสินค้าและบริการให้มากที่สุด” นางสาวสุชญา กล่าว

สอดรับกับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในไทยที่คาดกันว่า ภายในอีก 5 ปีจากนี้ จะมีมูลค่ารวมมากกว่า 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากขณะนี้มีทูลค่าที่ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ


ล่าสุดเตรียมจัดแคมเปญ Shopee 9.9 Super Shopping Day วีนที่9 กันยายนนี้

นายเทอเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แคมเปญ Shopee 9.9 Super Shopping Day เป็นแคมเปญที่มีความสำคัญต่อเราทุกคนที่ช้อปปี้ แคมเปญ 9.9 เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2559 เพื่อเติมเต็มศักยภาพของอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ และตั้งแต่นั้นมาแคมเปญ 9.9 ได้กลายเป็นการเฉลิมฉลองประจำปีที่รวบรวมคนนับล้านเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี2563นี้ เพราะเราทุกคนหันมาใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัลและเข้าถึงอี-คอมเมิร์ซมากขึ้น”

แคมเปญ Shopee 9.9 Super Shopping Day ในปีนี้ ช้อปปี้ประกาศพันธะสัญญาไว้ 3 ประการคือ 

1. สร้างความแข็งแกร่งของ Ecosystem พัฒนาคุณภาพ ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยด้วยบริการการชำระเงินและการจัดส่งสินค้าที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ปีนี้ช้อปปี้จะมอบบริการการชำระเงินและการจัดส่งสินค้าที่ดีกว่าเดิม เพื่อให้การซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยการให้บริการ Mobile Wallet ที่เรียกว่า AirPay ได้จับมือกับพันธมิตรทางการชำระเงินชื่อดังเพื่อให้การชำระเงินมีความปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น และยังได้พัฒนาระบบการจัดส่งสินค้าเพื่อตอบโจทย์การสั่งซื้อที่มากขึ้นและการชอปออนไลน์ที่เกิดขึ้นบ่อยกว่าเดิม กับเครือข่ายโลจิสติกส์และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าในระดับภูมิภาคเพื่อจัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็วแม้ในช่วงที่มีการสั่งซื้อมากกว่าปกติ

2. เดินหน้าส่งเสริมการฟื้นตัวของร้านค้าและผู้ขายอย่างเต็มสูบ ช่วยให้ร้านค้าและผู้ขายเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ ช้อปปี้ได้ใช้โอกาสสำคัญครั้งนี้มอบการสนับสนุนและช่วยเหลือธุรกิจทุกขนาดให้สามารถปรับเปลี่ยน ฟื้นฟู และประสบความสำเร็จบนโลกอีคอมเมิร์ซ สำหรับผู้ขายและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ช้อปปี้ได้เปิดตัว Seller Support Package เมื่อเดือนเมษายน เพื่อช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่าย ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน หรือกระตุ้นยอดขาย และการยกระดับ Seller Centre ซึ่งประกอบไปด้วย Marketing Centre โฉมใหม่ที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถสร้างแคมเปญและโปรโมชันได้ด้วยตัวเองอย่างสะดวกสบาย

ในส่วนของแบรนด์ไทยและแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศต่างหันมาสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของตนบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ ซึ่งมีร้านจากแแบรนด์ต่างๆ เพิ่มขึ้น 70% ที่เปิด Official Store ใน Shopee Mall ในปี 2563 ช้อปปี้จับมือกับ Google เพื่อเปิดตัว ‘Google Ads with Shopee’ ซึ่งเป็นโซลูชันการตลาดครั้งแรกที่จะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้าง จัดการ และติดตามผลของการโฆษณาผ่าน Google ของร้าน Official Stores ใน Shopee Mall แคมเปญ Shopee 9.9 Super Shopping Day โดยการใช้เครื่องมือการมีส่วนร่วมพิเศษต่างๆที่มีเฉพาะบนช้อปปี้ (exclusive engagement tools) เช่น Shopee Live และ Shopee Feed เพื่อดึงดูดผู้ใช้และกระตุ้นยอดขายสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

3. เซอร์ไพรส์ผู้ใช้ด้วยความบันเทิงและดีลเด็ดมากมายกว่าที่เคย พร้อมเกมไลฟ์สตรีม และโปรโมชันสุดพิเศษตลอดทั้งแคมเปญ Shopee 9.9 Super Shopping Day ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 9 กันยายน 2563 ในแต่ละวันช้อปปี้จะสร้างสีสันและเซอร์ไพรส์ผู้ใช้งานทั่วทั้งภูมิภาค ผ่านดีลพิเศษมากมายจาก 10 ล้านร้านค้า และ 15,000 แบรนด์พันธมิตรทั่วทั้งภูมิภาค และดีลสุดพิเศษเมื่อรับชมคอนเทนต์พิเศษผ่าน Shopee Live และเกมบนแอปพลิเคชันบนช้อปปี้

ตลาดอีคอมเมิร์ซจากนี้ไป ย่อมเพิ่มอุณหภูมิการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ

Let's block ads! (Why?)



เทคโนโลยี - ข้อมูลล่าสุด - Google News
August 24, 2020 at 08:55AM
https://ift.tt/2QidrMv

“ลาซมอลล์-ช้อปปี้” เคลื่อนทัพ อัปแพลตฟอร์ม-งัดบริการใหม่ - ผู้จัดการออนไลน์
เทคโนโลยี - ข้อมูลล่าสุด - Google News
https://ift.tt/2wMiz5r
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update


Bagikan Berita Ini

0 Response to "“ลาซมอลล์-ช้อปปี้” เคลื่อนทัพ อัปแพลตฟอร์ม-งัดบริการใหม่ - ผู้จัดการออนไลน์"

Post a Comment

Powered by Blogger.