Search

หล่อแรงและแพงพอประมาณ! รีวิวม้าลำพองเปิดหลังคา FERRARI F8 SPIDER - ไทยรัฐ

biasa.prelol.com

กำลังที่ปลดปล่อยออกมาโดยปราศจากอาการรอรอบ หรืออาการ Lag ของเทอร์โบ เป็นความสำเร็จของทีมวิศวกรผู้ที่ทำการปรับตั้งเครื่องยนต์ของ F8 Spider นอกจากสมรรถนะด้านอัตราเร่ง เสียงเครื่องยนต์ก็ยังถูกปรับใหม่โดยมีการเพิ่มเสียงการทำงานของเทอร์โบในรอบสูง เมื่อยืนอยู่บนถนนแล้ว F8กำลังวิ่งผ่านด้วยการเร่งความเร็วอย่างเต็มที่ คุณจะได้ยินเสียงวี้ดของเทอร์โบกับเสียงคำรามอันเป็นเอกลักษณ์พิเศษของเครื่องยนต์ V8 จาก Ferrari สมรรถนะที่สูงส่ง กับการบังคับควบคุมที่ง่ายดายขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากระบบควบคุมการทรงตัว ระบบรักษาเสถียรภาพของรถและการผสานระบบอากาศพลศาสตร์ที่พัฒนามาจากสนามแข่ง เป็นภารกิจหลักที่สืบทอดและถูกปฏิบัติกับรถทุกคันที่ผลิตจากมาราเนลโล ดีไซน์ที่งดงามและล้ำอนาคตของรูปลักษณ์ภายนอก ความท้าทายที่วิศวกรและนักออกแบบต้องเผชิญ นั่นก็คือ การก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยการนำเสนอผลงานที่แตกต่างและโดดเด่น เป็นงานออกแบบที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการซุปเปอร์คาร์ และ F8 Spider คือรถคันล่าสุดที่ Ferrari ทำได้สำเร็จอีกครั้ง F8 Spider ซึ่งเข้ามาแทน 488 Spider ถูกปรับปรุงในทุกรายละเอียด นอกจากเครื่องยนต์ที่มีกำลังเพิ่มขึ้น 50 แรงม้า Ferrari รุ่นใหม่คันนี้ยังมีน้ำหนักเบากว่าเดิม 20 กิโลกรัม มันหนักกว่า 488 Pista Spider เพียง 20 กิโลกรัม และยังมีประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดียิ่งขึ้น จากการใช้ระบบ Side Slip Angle Control รุ่นใหม่ เวอร์ชั่น 6.1

เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบของ Ferrari ถูกขนานนามว่าเป็นขุมพลังที่ดีที่สุดในด้านความดุดัน ความเร้าใจ จากแรงบิดที่ถูกส่งถ่ายไปยังล้อขับเคลื่อนคู่หลัง ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นเมื่อเครื่องยนต์รุ่นนี้ถูกยกมาประจำการอยู่ในรถสปอร์ตสองที่นั่งเครื่องยนต์วางกลางลำ ค่ายม้าลำพองได้รับการยกย่องมานานกว่า 4 ทศวรรษ ในฐานะรถสปอร์ตเครื่องวางกลางที่มีแฮนด์ลิ่งสมบูรณ์แบบ การบาลานซ์น้ำหนักที่ช่วยเพิ่มความเที่ยงตรงแม่นยำทำให้การควบคุมง่ายดาย คนที่ไม่เคยขับซุปเปอร์คาร์ก็สามารถทำความเร็วใน F8 ได้อย่างสบายๆ เนื่องจากตัวช่วยที่เป็นระบบอีเล็กทรอนิกส์นับร้อยรายการ คอยรองรับและปรับแต่งองคาพยบเพื่อทำให้มันกลายเป็นจักรกลซุปเปอร์คาร์ยุคใหม่ที่ขับง่าย ใครๆ ก็สามารถขับได้ (ถ้ามีเงินมากพอ) สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคของเครื่องยนต์ V8 มีความจุกระบอกสูบ 3,902 ซีซี. กำลัง 720 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที เป็นรถที่มีอัตราส่วนแรงม้าต่อความจุที่ 185 แรงม้าต่อลิตร แรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร ที่ 3,250 รอบต่อนาที ยาวนานเหมือนไม่มีวันหมด! คุณสามารถเร่งรอบจนสุดในโหมดเกียร์ Auto เครื่องยนต์จะลากรอบจนชนกับขีดแดงทุกเกียร์ในลักษณะกระชากกระชั้นตอนเปลี่ยนเกียร์ด้วยโหมด  RACE แค่จับพวงมาลัยให้แน่นกว่าเดิมแล้วก็กดคันเร่งลงไปเต็มๆ แรงดึงมหาศาลจะพาคุณทะยานผ่าน 200 กิโลเมตรในเวลาแค่ 8 วินาทีนิดๆ เท่านั้น! เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ของ Ferrari ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทำเป็นฝาครอบเครื่องยนต์ เป็นขุมกำลังที่พัฒนามาจากเครื่องยนต์ของ  Ferrari 488 Spider และกลายเป็นผลงานชิ้นเอกทางวิศวกรรมยานยนต์ ทั้งในเรื่องของการถ่ายทอดกำลังที่ราบรื่น ตอบสนองเร็ว  และปราศจากอาการรอรอบของเทอร์โบ เสียงคำรามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เกิดจากการใช้ระบบระบายไอเสียแบบใหม่หมด F8 Spider มีการบังคับควบคุมสอดประสานลงตัวกับกำลังของเครื่องยนต์ จากการปรับปรุงไดนามิกส์ รวมถึงระบบ Ferrari Dynamic Enhancer (FDE+) เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ใช้งานได้ทันทีผ่านโหมด RACE ของสวิตช์ Manettino 

กำลังที่เพิ่มขึ้น 50 แรงม้า (เมื่อเทียบกับรุ่น 488 Spider) เกิดจากการนำระบบไอดีของ 488 Challenge มาปรับใช้ ช่องดักอากาศเข้าเครื่องยนต์ของ F8 Spider ถูกย้ายจากด้านข้างของตัวรถ มาอยู่ที่ทั้งสองฝั่งของสปอยเลอร์ และต่อตรงไปยังท่อร่วมไอดี ช่วยลดการสูญเสียอากาศ และให้การไหลเวียนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ดีขึ้น ส่งให้สร้างแรงม้าได้มากขึ้น แรงดันที่เกิดจากรูปทรงของสปอยเลอร์ท้ายรถช่วยเสริมให้การไหลของอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ดียิ่งขึ้น

ระบบช่วยออกตัว Adaptive Performance Launch วิเคราะห์การยึดเกาะของยางขณะที่รถกำลังเร่งความเร็ว ระบบอิเล็กทรอนิกส์จะควบคุมแรงบิดให้เหมาะสมกับระดับการยึดเกาะถนน ช่วยลดการลื่นไถลของล้อให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้อัตราเร่งที่ดีที่สุด กลุยทธ์ Wall Effect ที่นำมาใช้ในการจำกัดรอบเครื่องยนต์ เพื่อความปลอดภัยในสถานการณ์ของการขับที่แตกต่างกัน แทนที่จะค่อยๆ จำกัดรอบเครื่องไปจนถึงลิมิต ระบบจะตัดการทำงาน ต่อเมื่อถึงเรดไลน์ที่ 8,000 รอบต่อนาที ช่วยทำให้เครื่องยนต์รักษารอบและแรงบิดยังคงมีให้ใช้เต็มที่ ทำเวลาต่อรอบในสนามแข่งได้เร็วขึ้น ระบบจัดการแรงบิดแบบแปรผัน Variable Torque Management ถูกนำกลับมาใช้เพื่อรับมือกับความโหดของ F8 Spider แรงบิดถูกปรับเพื่อให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ราบรื่นและนุ่มนวลเมื่อขับในเมือง เครื่องยนต์ยังถูกปรับแต่งให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพเปี่ยมด้วยพลังแรงดึงตั้งแต่ออกตัวไปจนถึงเรดไลน์ แรงบิดสูงสุดมากกว่า 488 Spider 10 นิวตันเมตร ไหลทะลักออกมาตั้งแต่รอบเครื่องต่ำทำให้ต้องระวังในการออกตัว

ล้ออะลูมิเนียมน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว ห่อรัดด้วยยางสมรรถนะสูงจาก Michelin Pilot Super Sport K3 ยางหน้าไซล์ 245/35 ZR20 J9.0 ส่วนยางล้อหลังซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อนมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 305/30 ZR 20 J11.0 Pilot Super Sport K3  ออกแบบลายดอกยางกับส่วนผสมของเนื้อยางแบบพิเศษเพื่อรองรับรถสปอร์ตที่ทำความเร็วได้เกินกว่า 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบเบรกใช้ชุดเบรก Ferrari carbon ceramic brakes เบรกหน้า 398 x 223 x 38 mm เบรกหลัง 305/30 ZR 20 J11.0 ชุดเบรก carbon ceramic brakes รองรับการเบรกในย่านความเร็วสูงอย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดปัญหาอาการเบรกเฟรด เนื่องจากอุณหภูมิที่จานเบรกสูงเกินไป ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อต้องใช้เบรกอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงในสนามแข่งกับจานเบรกแบบเหล็กหล่อเจาะรูระบายความร้อน ระบบรองรับด้านหน้า และด้านหลังแบบดับเบิ้ลวิชโบน ปีกนกคู่อะลูมิเนียม พร้อมโช้คอัพไฟฟ้าที่ปรับการตอบสนองได้อย่างรวดเร็วตามการปรับตั้งผ่านปุ่มบนพวงมาลัย 

เครื่องยนต์ของ F8 Spider ใช้กรรมวิธีในการลดน้ำหนักมาจากเครื่องยนต์ของ 488 Pista ทำให้สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 18 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับ 488 Spider การลดน้ำหนักให้กับชิ้นส่วนที่หมุนและเคลื่อนไหว เช่น ใช้ก้านสูบไทเทเนี่ยม, เพลาข้อเหวี่ยง และฟลายวีล ช่วยให้เครื่องยนต์หมุนสู่รอบสูงได้อย่างรวดเร็ว เมื่อกดคันเร่งจนสุด เข็มวัดรอบจะกวาดขึ้นอย่างฉับพลันทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะของการเปลี่ยนเกียร์ และตอนเร่งความเร็วด้วยเกียร์ต่ำ การลดน้ำหนักให้กับชิ้นส่วนที่หมุนหรือเคลื่อนที่เหล่านี้ ช่วยลดแรงเสียดทานขณะเครื่องยนต์ทำงานอีก 17 เปอร์เซ็นต์ ท่อร่วมไอเสียที่ทำวัสดุ Inconel (โลหะในกลุ่ม Superalloy) แบบเดียวกับที่ใช้ใน 488 Challenge ลดน้ำหนักเครื่องยนต์ลงอีก 9.7 กิโลกรัม ระบบระบายไอเสียได้รับการปรับปรุงตั้งแต่ชุดเทอร์โบไปจนถึงปลายท่อ เพื่อปรับให้เสียงการทำงานของเครื่องยนต์ เสียงวิ้ดของเทอร์โบและเสียงกระหึ่มที่ท่อระบายท้ายมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวผลลัพธ์ที่ได้คือเสียงเครื่องยนต์และเสียงท่อที่ก้าวร้าวดุดัน หนักแน่นและทรงพลัง ตัวกรองอนุภาคน้ำมันเบนซิน (GPF - Gasoline Particulate Filter) แบบใหม่ เพื่อปรับให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางด้านสิ่งแวดล้อม

F8 Spider ใช้ทีมดีไซน์ของ Ferrari Styling Centre โดยเชื่อมโยงทิศทางการออกแบบมาจาก F8 Tributo เน้นหนักในด้านระบบอากาศพลศาสตร์หรือแอโรไดนามิกส์ที่มีประสิทธิภาพสูง การเป็นรถสปอร์ตเปิดหลังคาทำให้การปรับแต่งตัวถังให้เข้ากับหลักอากาศพลศาสตร์เป็นเรื่องที่มีขั้นตอนซับซ้อน ส่วนบนของรถถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะส่งผลถึงภาพรวมของตัวถัง หลายปีมาแล้วที่ Ferrari เลือกใช้หลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ (RHT - Retractable Hard Top) เนื่องจากความแข็งแรง คงทนและเก็บเสียงได้ดี ทำงานในการพับเก็บหรือกางออกเพื่อปิดส่วนบนของห้องโดยสารแค่ 14 วินาที เป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เส้นสายรอบตัวรถของ F8 Spider ถูกปรับให้มีความสอดคล้องกับหลังคาแข็งพับเก็บได้แบบ RHT การปรับเส้นสายที่แบ่งระหว่างตัวรถและหลังคาออกจากตำแหน่งดั้งเดิมที่บริเวณช่วงไหล่ของรถไปจนถึงส่วนบนของเสากลาง (B-Pillar) ชุดหลังคามีขนาดกะทัดรัด ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ถูกออกแบบให้แบ่งเป็นสองชิ้น เพื่อพับเก็บเข้าไปอยู่ด้านบนของห้องเครื่อง หลังคาเปิด หรือพับเก็บได้ในเวลา 14 วินาที ทำงานขณะที่รถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 45 กม./ชม.

Ferrari Styling Centre วางดีไซน์ที่ทันสมัยและล้ำอนาคตให้กับม้าลำพองเปิดประทุนรุ่นใหม่ ด้วยระบบอากาศพลศาสตร์หรือแอโรไดนามิกส์ที่รุดหน้า มุมมองด้านหน้าของรถมีช่องดักอากาศ S-Duct ห้อมล้อมด้วยส่วนหน้า ชุดไฟหน้า LED แบบแนวนอน มีขนาดเล็กลง สปอยเลอร์ท้ายได้รับการออกแบบใหม่ ใหญ่ขึ้นและโอบล้อมรอบชุดไฟท้าย ชุดไฟท้ายคู่สุดคลาสสิก หางหลังสีเดียวกับตัวถัง เป็นสไตล์ที่เคยใช้ใน 308 GTB รถสปอร์ตหลังคาแข็ง เครื่องยนต์ 8 สูบ รุ่นแรกในตำนาน

ฝากระโปรงท้ายคือหนึ่งในความโดดเด่นของ F8 Spider รูปทรงของฝาท้ายที่ดูเหมือนปลากระเบนนี้ เริ่มต้นจากสันส่วนกลางของกระจกหลัง ค่อยๆ ลาดหายกลมกลืนลงไปใต้ปีกของสปอยเลอร์ สอดรับการไหลของอากาศ ปีกทั้งสองข้างที่ตั้งสูงขึ้นจากส่วนกลางของรถ ค่อยๆ ลดระดับลงจนหลอมรวมกลมกลืนไปกับตัวถัง ให้ความรู้สึกต่อเนื่องทางสายตาในทุกมุมมอง องค์ประกอบของปีกทั้งสองถูกแยกออกจากกันด้วยครีบระบายอากาศซึ่งช่วยในการนำความร้อนออกจากเครื่องยนต์ ช่องทั้งสามของครีบระบายอากาศแต่ละฝั่งบนฝาครอบเครื่องยนต์ ชวนให้นึกถึงสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ F8 เวอร์ชั่น Coupe ช่องระบายอากาศสีดำ สันที่ยกสูงขึ้นมาจากฝาครอบไหลลื่นคดเคี้ยวต่อเนื่องไปด้านหลังแล้วต่ำลงไปในสปอยเลอร์ที่ออกแบบมาจากขายึดปีกหลังแบบ Swan Neck ของรถแข่ง F1 

ภายในของซุปเปอร์คาร์ F8 Spider เน้นความคลาสสิกและสไตล์ของ Ferrari ที่คุ้นเคย อุปกรณ์ทุกอย่างออกแบบให้มุ่งเน้นไปที่การใช้งานของคนขับเป็นหลัก ภาพลักษณ์ที่เป็นแบบเดียวกับรถหลังคาแข็งเครื่องยนต์วางกลางของ Ferrari นำแนวคิดที่เชื่อมโยงคนขับและรถเหมือนกับรถแข่ง F1 การติดตั้งสวิตช์ควบคุมทั้งหมดไว้บนพวงมาลัยรุ่นใหม่ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน เบาะแบบสปอร์ตออกแบบใหม่ แดชบอร์ดตกแต่งด้วยอะลูมิเนียม ใช้คาร์บอนไฟเบอร์สีเงินเป็นเส้นแบ่งระหว่างส่วนบนและล่างของแดชบอร์ด มาตรวัดแบบคลาสสิกพร้อมมาตรวัดรอบติดตั้งไว้ตรงกลาง ออปชั่นจอระบบสัมผัส (Touchscreen) สำหรับผู้โดยสาร คอนโซลกลางจัดวางไว้ใต้แดชบอร์ด และออกแบบให้แยกออกจากแดชบอร์ดอย่างชัดเจน 

เบาะคาร์บอนไฟเบอร์หุ้มหนังแท้สีน้ำตาลสวยงามและบางเฉียบ เข็มขัดนิรภัยสีดำตัดกับสีของเบาะ แผงประตูทูโทนสีน้ำตาลสลับสีดำ มือจับประตูด้านในสีเงิน ช่องแอร์ทรงกลมคล้ายท่อของเครื่องเจ็ต แป้นคันเร่งและแป้นเบรกทำจากอะลูมิเนียม พวงมาลัยทรงสามก้านแบบฐานตัดเพื่อเปิดพื้นที่ในการเข้าออกจากตำแหน่งของเบาะคนขับ บนพวงมาลัย มีสวิตช์สตาร์ตเครื่องยนต์ ปุ่มบิดเพื่อปรับโหมดการขับขี่ หรือสวิตช์ manettino ปุ่มปรับการตอบสนองของโช้คอัพไฟฟ้า ปุ่มสั่งงานด้วยเสียง ปุ่มรับหรือวางสายโทรศัพท์บูลธูท ปุ่มไฟหน้า ปุ่มปรับสปีดการทำงานของที่ปัดน้ำฝน แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift แบบยึดติดกับคอพวงมาลัยสไตล์ซุปเปอร์คาร์ 

F8 Spider ใช้แอโรไดนามิกส์ที่สลับซับซ้อน นำมาจากประสบการณ์แข่งรถ Class GT และ Challenge นำมาปรับให้เข้ากับรูปแบบตัวถังของรถเปิดประทุนเครื่องยนต์วางกลาง เพื่อทำให้ F8 กลายเป็นจักรกลสมรรถนะสูงที่ใครที่ขับรถเป็นก็สามารถควบคุมได้ ตำแหน่งของแผงระบายความร้อนใน F8 Spider แตกต่างจาก 488 Spider โดยทำมุมเอียงไปทางด้านหลังและส่งผลต่อการลดความร้อนที่ดีขึ้น ลดการสูญเสียพื้นที่บริเวณใต้ท้องรถซึ่งสามารถนำไปใช้ในการสร้างดาวน์ฟอร์ซหรือแรงกดตัวรถขณะทำความเร็ว รูปทรงของช่องที่ใช้ในการกระจายลมร้อนออกแบบใหม่ให้สร้างดาวน์ฟอร์ซได้สูงสุดโดยไม่เกิดแรงต้าน ทั้งหมดนี้ช่วยให้ระบบอากาศพลศาสตร์ของ F8 Spider มีประสิทธิภาพโดยรวมเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับ 488 Spider

ประสิทธิภาพโดยรวมของ F8 Spider สูงกว่า 488 Spider จากการปรับแต่งเพื่อเพิ่มกำลังเครื่องยนต์, การลดน้ำหนักและเพิ่มประสิทธิภาพระบบอากาศพลศาสตร์ ทำให้ไม่ต้องใช้ฝีมือระดับนักแข่งเพื่อเข้าถึงสมรรถนะของรถ และไม่ต้องอาศัยทักษะการขับขี่ขั้นสูง เนื่องจากระบบไดนามิกส์และระบบควบคุมการทรงตัวของรถที่ช่วยให้การขับขี่จนถึงขีดสุดทำได้ง่ายและให้ความมั่นใจ พวงมาลัยที่มีขนาดเล็กลงและการใช้ระบบ Dynamic Enhancer Plus แบบใหม่ เวอร์ชั่น 6.1 ของ Ferrari บรรลุเป้าหมายในการสร้างรถสมรรถนะสูงที่ง่ายต่อการคอนโทรล วิศวกรของ Ferrari ปรับแต่งจนทำให้สมรรถนะของเครื่องยนต์กับระบบแอโรไดนามิกส์ทำงานสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว ด้วยการพัฒนาระบบควบคุมไดนามิกส์ของรถ Side Slip Control ซึ่งช่วยเสริมให้ผู้ขับควบคุมรถได้เกือบจะถึงขีดจำกัด การเปลี่ยนจากเวอร์ชั่น 6.0 ไปสู่ 6.1 โดยเรียกใช้ระบบ Ferrari Dynamic Enhancer system (FDE+) ได้ง่ายขึ้นผ่านตำแหน่ง RACE ของสวิตช์ Manettino บนพวงมาลัย

FDE คือระบบที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Ferrari ทำหน้าที่ปรับแรงดันน้ำมันเบรกที่คาลิเปอร์ เปิดตัวครั้งแรกใน 488 Pista และถูกนำมาใช้กับ 488 Pista Spider ก่อนที่เวอร์ชั่น FDE+ ซึ่งขยายฟังก์ชันการทำงานเพิ่มขึ้น จะถูกติดตั้งให้กับ F8 Tributo และ F8 Spider ระบบควบคุมจะทำงานในขณะที่รถเข้าโค้ง (แต่ไม่อยู่ในขณะที่กำลังเหยียบเบรก) มีการเพิ่มขอบเขตการทำงานบนถนนที่มีการยึดเกาะต่ำขณะฝนตกในโหมด RACE หรือปรับมาใช้ Wet Mode เพื่อการขับแบบปลอดภัยสูงสุด

มาตรฐานคุณภาพของรถยนต์จาก Ferrari การให้บริการลูกค้าเป็นหัวใจหลัก โปรแกรมการบำรุงรักษา เพิ่มขึ้นเป็น 7 ปี สำหรับเจ้าของ F8 Spider โปรแกรมนี้ครอบคลุมการบำรุงรักษาตามปกติทั้งหมดในช่วง 7 ปีแรกของรถ Ferrari ทุกรุ่น การบำรุงรักษาตามกำหนดเวลานี้เป็นบริการพิเศษที่ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ารถจะมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีความปลอดภัยเมื่อใช้งาน บริการนี้ยังมีให้สำหรับลูกค้าที่ซื้อFerrari มือสอง การบำรุงรักษาปกติ (ตามระยะทาง 20,000 กม. หรือปีละครั้ง)

อะไหล่แท้และการตรวจสอบอย่างพิถีพิถันโดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรมโดยตรงที่ศูนย์ฝึกอบรม Ferrari ในเมืองมาราเนลโล ใช้เครื่องมือตรวจสอบและซ่อมบำรุงที่ทันสมัย บริการนี้มีให้เฉพาะสำหรับตัวแทนจำหน่าย Ferrari อย่างเป็นทางการทั่วโลก Ferrari ยังมีโปรแกรม Genuine Maintenance จะขยายขอบเขตของบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่ต้องการรักษาประสิทธิภาพและความเป็นเลิศขณะขับเคลื่อนใช้งานในชีวิตประจำวัน


FERRARI F8 SPIDER
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค
เครื่องยนต์
ประเภท V8 - 90° - turbo – dry sump
ปริมาตรความจุ 3902 cc
กำลังสูงสุด* 720 cv (530 kW) @ 8000 rpm
แรงบิดสูงสุด* 770 Nm @ 3250 rpm
อัตราส่วนแรงม้าต่อความจุ 185 cv/l
รอบเครื่องยนต์สูงสุด 8000 rpm
อัตราส่วนกำลังอัด 9.6:1

มิติและน้ำหนัก

ความยาว 4,611 mm
ความกว้าง 1,979 mm
ความสูง 1,206 mm
ความยาวฐานล้อ 2,650 mm
ความกว้างฐานล้อหน้า 1,677 mm
ความกว้างฐานล้อหลัง 1,646 mm
น้ำหนักรถเปล่า** 1,400 kg
อัตราส่วนการกระจายน้ำหนัก 41.5% front – 58.5% rear
ความจุห้องเก็บสัมภาระ 200 l
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 78 l

ยาง
หน้า 245/35 ZR 20 J9.0
หลัง 305/30 ZR 20 J11.0

เบรก
หน้า 398 x 223 x 38 mm
หลัง 360 x 233 x 32 mm

ระบบส่งกำลัง 7-speed, dual-clutch F1 gearbox

ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ E-Diff3, F1-Trac, high performance ABS/EBD with Ferrari Pre-Fill, FrS SCM-E, FDE+, SSC 6.1

สมรรถนะ
0-100 km/h 2.90 s
0-200 km/h 8.2 s
ความเร็วสูงสุด 340 km/h

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

Let's block ads! (Why?)



เทคโนโลยี - ข้อมูลล่าสุด - Google News
August 21, 2020 at 10:00AM
https://ift.tt/3gfegjx

หล่อแรงและแพงพอประมาณ! รีวิวม้าลำพองเปิดหลังคา FERRARI F8 SPIDER - ไทยรัฐ
เทคโนโลยี - ข้อมูลล่าสุด - Google News
https://ift.tt/2wMiz5r
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update


Bagikan Berita Ini

0 Response to "หล่อแรงและแพงพอประมาณ! รีวิวม้าลำพองเปิดหลังคา FERRARI F8 SPIDER - ไทยรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.